ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากมีแสงแดดเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 5 ชั่วโมงต่อวัน รัฐบาลไทยได้ให้ความสำคัญกับพลังงานแสงอาทิตย์ โดยกำหนดเป้าหมายให้ประเทศไทยมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนร้อยละ 30 ภายในปี พ.ศ. 2573 ระบบโซลาร์รูฟท็อปเป็นรูปแบบหนึ่งของพลังงานแสงอาทิตย์ที่สามารถนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าได้ โดยติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของอาคารที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ และโรงงานอุตสาหกรรม
ระบบโซลาร์รูฟท็อปมีข้อดีหลายประการ ได้แก่
ประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตของตลาดระบบโซลาร์รูฟท็อปที่สูง โดยคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดถึง 50,000 ล้านบาทภายในปี พ.ศ. 2573 การเติบโตของตลาดระบบโซลาร์รูฟท็อปเกิดจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่
ระบบโซลาร์รูฟท็อปเป็นรูปแบบหนึ่งของพลังงานหมุนเวียนที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่า สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน เพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สิน และช่วยแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเติบโตของตลาดระบบโซลาร์รูฟท็อป ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศ